ว่ากันว่า
คนที่เลิกกันแล้วยังสามารถกลับมาเป็นเพื่อน พี่ น้อง กันได้ นี่ถ้าไม่รักกันมาก ก็คือ ไม่เคยรักกันเลย
แล้วสำหรับผมกับเขามันจัดอยู่ในช้อยไหนกันนะ.
“ พี่สิง ช่วยดูเอกสารชุดนี้หน่อยได้มั้ยครับ “
“ วางไว้บนโต๊ะเลยคริส เดี๋ยวผมดูให้นะ “
“ ครับ ขอบคุณครับ “
“ เออ รีพอร์ตเมื่อวันก่อน ผมตรวจแล้วนะ มีแก้บางจุดตรงที่โน้ตไว้ ยังไงฝากคุณแก้อีกที จะได้ส่งให้ลูกค้า “
“ ได้ครับ งั้นผมรีบแก้แล้วจะเอามาให้เช็คอีกรอบนะครับ “ มือขาวรับกระดาษไปจากเขา ถามรายละเอียดนิดหน่อยก่อนที่จะเดินออกไป
เขาจัดการเคลียร์งานอยู่อีกพักใหญ่ถึงได้หยิบเอกสารที่อดีตรุ่นน้องร่วมสถาบัน แถมพ่วงตำแหน่งคนเคยชิดใกล้ และในปัจจุบันเป็นเพื่อนร่วมงานขึ้นมานั่งไล่อ่านดู ลายมือเป็นระเบียบเรียบร้อยที่คุ้นเคยเขียนมาร์กในแต่ละหัวข้อ มีทั้งสรุปเนื้อหา และคำถามที่สงสัยจากข้อมูล เขาอ่านพร้อมทั้งหยิบกระดาษมาเช็คลิสข้อมูลรวมถึงคำถามต่างๆจนเสร็จ มือเรียวถึงได้ดึงแว่นกรอบใสออกมาวางพร้อมนวดคลึงตรงหว่างคิ้ว ทำงานเยอะๆนี่ก็ปวดตาเหมือนกันแฮะ กำลังจะลุกไปหากาแฟแก้เครียดสักหน่อย แต่ก็ได้บินเสียงเคาะประตูเข้ามาซะก่อน
“ เชิญครับ “ สิ้นเสียงเขา ประตูก็เปิดออกพร้อมกับคนตัวขาวคนเดิม ในมือมีเอกสารหนึ่งชุดที่คาดว่าคงจะเป็นรีพอร์ตที่ให้ไปแก้มา ส่วนมืออีกข้างถือแก้วกาแฟแบรนด์ดังเจ้าประจำของเขา ถ้าไม่ได้เข้าข้างตัวเองเกินไป เมนูในแก้วก็คือเมนูโปรดเขาด้วยนั่นแหละ
“ ผมแก้รีพอร์ตเรียบร้อยแล้วครับ “
“ ขอบคุณมากเลย ผมขอเวลาเช็คสักครู่นะ แล้วก็เอกสารตรวจสอบงานของบริษัท A ผมเช็คเสร็จแล้วนะ ฝากคุณช่วยนัดทีมประชุมพร้อมกันตอนบ่ายสองเลยแล้วกัน ผมจะได้แจกแจงข้อมูล ตอบคำถามตามที่คุณโน้ตไว้ในเอกสารด้วย “ เขารับรีพอร์ตชุดใหม่มาวางตรงหน้า ก่อนจะเอื้อมคว้าเอาแว่นทรงแปดเหลี่ยมมาใส่อีกครั้ง กำลังจะเริ่มต้นอ่านแต่ก็ต้องเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ยืนอึกๆอักๆอยู่ตรงหน้าโต๊ะซะก่อน
“ เอ่อ คือว่า.... “ เขาเลิกคิ้วมองคนตรงหน้า คิดว่ามีประเด็นไหนที่ยังติดค้างอยู่หรือเปล่า คนตรงหน้าถึงยังไม่ได้ออกจากห้องไป
“ คือพอดีว่าวันนี้กาแฟมีโปรหน่ะครับ แล้วผม....เอ่อ ผม ก็เลยซื้อมาเผื่อ เห็นว่าพี่น่าจะยุ่งๆกับงาน “ แก้วกาแฟถูกวางลงตรงหน้า ก่อนที่คนพูดจะรีบหันหลังเดินออกไป แต่ยังไม่ทันพ้นประตู เขาที่ยังงงๆก็เลยต้องรีบพูดขอบคุณ โดยที่มีคนตัวขาวเจ้าของกาแฟหันมายิ้มให้น้อยๆ
มือเรียวหยิบแก้วอเมริกาโน่ขึ้นมาถือก่อนภาพเก่าๆจะย้อนวนกลับมา....
.........................................................................
............................................................
.................................................
....................................
“ พี่สิง พี่สิงครับ คุณสิงโต๊วววววว “ เสียงหวานใสพร้อมแรงเขย่าน้อยๆที่ไหล่ทำให้เขาที่กำลังคร่ำเคร่งกับโปรเจ็ครู้สึกตัว มือที่กำลังรัวแป้นคีบอร์ดหยุดชะงัก แล้วเพิ่งแค่เงยหน้าขึ้นมาก็เจอรอยยิ้มสดใสพร้อมกับแก้วอเมริกาโน่ของโปรดของเขายื่นมาตรงหน้า
“ ขอบคุณครับ “ เอื้อมมือไปรับแก้ว พร้อมดึงคนส่งกาแฟให้นั่งลงข้างกันบนโต๊ะไม้ยาว
“ ทำงานเพลินเลยนะครับ คริสเรียกตั้งนานกว่าพี่จะรู้ตัว “ คนตัวขาวว่าทั้งๆที่ยังยิ้มเต็มแก้ม ทำให้คนที่โดนติได้แต่ยิ้มประจบแถมดูดกาแฟแก้วโปรดอย่างเอาใจ
“ ก็งานมันเร่งค่ะ พี่จะรีบทำให้เสร็จเร็วๆจะได้มีเวลาอยู่กับคริสไง “
“ ไม่ต้องมาทำตาวิบวับเลย ผมแค่เอากาแฟมาให้เฉยๆ ไม่กวนพี่ทำโปรเจ็คหรอก พอดีวันนี้มีโปร 1 แถม 1 จะซื้อแก้วเดียวก็ขาดทุน เลยแวะเอาแก้วแถมมาส่งเฉยๆครับ “
“ มาส่งแค่กาแฟจริงหรอครับ ไอ้เราก็อุส่าแอบดีใจ นึกว่าจะมีคนมาคอยนั่งให้กำลังใจซะอีก “
“ นั่งแป๊บนึงก็ได้ครับ ถือซะว่าสงสารลูกสิงโต “ พูดจบก็หัวเราะจนตาหยี ทำให้เขาหมั่นเขี้ยวจนต้องยกมือขึ้นมาขยี้หัวคนน่ารักให้บ่นอุบอิบอยู่หลายคำ เสียงหัวเราะที่สอดประสานในลานกว้างชัดเจนในความทรงจำ ว่าความสุขที่ผ่านมานั้นเคยเกิดขึ้นจริง....
....................................
.................................................
............................................................
.........................................................................
“ คริส ยังไม่กลับอีกหรอ “ เขาเดินออกจากห้องหันไปเห็นคนคุ้นตายังนั่งรัวมือกับคีบอร์ดอยู่ก็อดที่จะเดินเข้าไปทักไม่ได้
“ ตอนแรกก็จะกลับแหละครับ แต่พอดีฝนตกแรง แล้ววันนี้ผมไม่ได้เอารถมา ก็เลยนั่งทำงานรอฝนหยุดดีกว่า “
“ แล้วนี่จะกลับหรือยัง? กลับด้วยกันมั้ย พี่ไปส่ง “ เขาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือนี่ก็ทุ่มกว่าแล้ว แถมฝนก็ยังไม่หยุดตกจึงได้เสนอตัวขึ้นมา
“ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกลับเองก็ได้ “
“ กลับด้วยกันแหละ ไป เลิกทำงานเก็บของได้แล้วครับ “ เป็นอันว่าคำพูดของเขาทำให้คนตัวเล็กต้องวางมือ เก็บเอกสาร ปิดโน้ตบุค ก่อนที่จะสะพายกระเป๋าเดินตามเขาลงมาที่รถ
“ ก่อนเข้าบ้านคริส แวะทานสเต็กร้านหัวมุมก่อนดีหรือเปล่า หิวหรือยังเรา พี่ก็ไม่ได้ไปทานร้านนี้นานแล้วเหมือนกัน “ เขาพูดขึ้นมาในขณะที่เลี้ยวรถออกมาจากตึกออฟฟิศ โดยปกติแล้วเวลาเขาคุยกับคริสก็จะแทนตัวด้วย ‘พี่’ เสมอ ยกเว้นแต่ในเวลางาน ที่มักจะเลือกใช้คำทางการหน่อย เพื่อไม่ให้แตกต่างจากคนอื่น แม้ทุกคนจะรู้ว่าพวกเราเป็นพี่น้องร่วมสถาบันกัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะแสดงความสนิทสนมออกหน้าใครมาจับผิด
“ ได้ครับ ผมก็ไม่ได้ไปนานแล้ว “ พอได้ยินคำตอบรับเขาก็มุ่งหน้าไปในเส้นทางที่เคยคุ้นเมื่อหลายปีก่อน รถยังติดเหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ หันมองคนข้างกายที่ตอนแรกยังชวนคุยเสียงเจี้ยวแจ้วก็พบว่าหลับไปแล้ว คงเพราะวันนี้ฝนตก อากาศภายนอกที่ชื้นมาบวกความเย็นของแอร์ในรถทำให้คนตัวขาวนอนห่อตัวอยู่ชิดริมกระจก รอยยิ้มเอ็นดูปรากฎขึ้นมา ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มผืนเล็กตรงเบาะหลังมาคลุมให้
“ ขอบคุณมากนะครับที่มาส่ง แถมยังเลี้ยงข้าวอีก “ คริสพูดขึ้นมาตอนที่เขาจอดรถนิ่งสนิทตรงหน้ารั้วบ้าน
“ แลกกับกาแฟแก้วเมื่อกลางวันไง ที่จริงเราก็ไม่ได้ไปไหนด้วยกันแบบนี้นานแล้วเนอะ “
“ นั่นสิครับ คิดถึงเมื่อก่อนเลย “
“ อื้มมมม พี่ก็คิดถึง “
“ เนี่ย หยอดเก่ง ฮ่าๆ “ คนตัวเล็กขัดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม ทำเอาเขาต้องยิ้มตาม
“ ไม่ได้หยอดเลยนะ พี่ก็พูดไปตามความรู้สึกไง “
“ เชื่อครับเชื่อ อยู่กับพี่ ผมสบายใจเสมอเลย ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้ “
“ พี่ก็เหมือนกัน “
“ แล้วเป็นไงบ้างละ กับน้องเขา “ หยักคิ้วลิ่วตาขณะที่ถามถึงอีกคน ทำเอาเขาที่ไม่อยากจะพูดถึงต้องตอบอย่างเสียไม่ได้
“ เลิกแล้ว....”
“ ห๊ะ พี่สิง อะไร ยังไง เมื่อไหร่ ทำไมผมไม่รู้ละ “
“ ก็พอดีช่วงนั้นยุ่งๆ พี่เลยไม่มีเวลาเล่าให้ฟัง “
“ โอ้ยยยย ตายแล้ว แล้วพี่โอเคหรือเปล่าเนี่ย “ คนพูดแสดงความห่วงใยออกมาผ่านสายตา จนทำให้เขาต้องเบือนหน้าไปมองถนนโล่งๆตรงหน้าแทนคนข้างตัว
“ โอเคแหละ มันช่วงปิดโปรเจ็คนรกเมื่อปลายปีก่อนไง ไม่มีเวลาได้เศร้าเลย “
“ โหยยยย แล้วก็เก็บเงียบเลยนะ กับน้องกับนุ้งไม่มีบอกกล่าวอัพเดทชีวิตเลย “
“ ทำเป็นมาว่าพี่ เราก็เหมือนกันแหละ อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะ เลิกคุยกับเขาแล้วหรอ? “
“ อื้อ ก็งั้นแหละ อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง เอาของพี่ก่อน แล้วทำอีท่าไหนถึงเลิก คบกันมาตั้งหลายปีกับน้องเขา “
“ พี่มันคงไม่ดีมั้ง ถึงคบใครไม่ได้นาน “ เขาปากไวตอบกลับไปก่อนที่จะทันรู้ตัวว่าพูดไม่คิด ก็ตอนที่เห็นคนตรงหน้านิ่งไป
“ ถ้าพี่ไม่ดี ก็คงไม่มีใครดีแล้วแหละ “ ก้มหน้าเงียบไปพักนึง ก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มฝืดๆ ทำให้เขาอยากจะตบปากตัวเองแรงๆสักที ที่พูดอะไรไม่ทันคิดออกไปจนทำให้คนตรงหน้าต้องเสียความรู้สึก
“ คริส คือพี่ไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น พี่ขอโทษ ”
“ คนบอกเลิกพี่คือคริสนะ คริสต่างหากที่ต้องขอโทษ “
“ คริสไม่ได้ผิดอะไร “
“ ก็มีแต่พี่คนเดียวแหละที่สปอยคริส รู้มั้ยว่าคริสโดนเพื่อนๆด่าอยู่เป็นปีเลยนะ เรื่องพี่อ่ะ “ ปากเล็กบู้ขึ้นมายามบ่นถึงเรื่องครั้งก่อน คริสเป็นน้องที่น่าเอ็นดูของเขาอยู่เสมอตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้ เขากล้าพูดเลยว่าความรัก ความหวังดี ระหว่างเรายังเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนสถานะไป
“ พี่ไม่เคยคิดว่าเราผิดเลยนะ ความรู้สึกคนเรามันเปลี่ยนกันได้ อย่าคิดมากเลยเจ้าตัวยุ่ง “ เขายกมือขึ้นโยกหัวเล็กอย่างเอื้อเอ็นดู ก่อนจะเห็นคนตัวเล็กพึมพำอะไรเบาๆแต่จับใจความไม่ได้
“ ถ้าเรารักกันช้ากว่านี้ก็ดีสิเนอะ ถ้าเรารักกันในตอนที่รู้ว่ารักคืออะไร มันคงไม่พังเพราะความเอาแต่ใจของผมแบบนั้น “
“ หืม คริสว่าอะไรนะครับ? “
“ เปล่าครับ วันนี้ขอบคุณพี่สิงมากนะครับ ถึงแล้วไลน์บอกผมด้วยน๊าาา “ น้องขยับตัวเก็บข้าวของเปิดประตูลงไปก่อนจะหันมาบอกลา
“ ครับ “ เขารับคำ รอจนคนตัวเล็กเข้าบ้านเรียบร้อย จึงเคลื่อนรถออกมา
(Loading 35%)
สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการเขียนฟิคไปนาน
วันนี้เลยมาประเดิมด้วยเรื่องสั้นตอนเดียวจบ(แต่ตอนนี้ยังเขียนไม่จบ)สักหน่อย : )
ไม่ได้เขียนนานรู้สึกว่าท่อนบรรยายเยอะเกินไป
แอบมาลงไว้ก่อนนิดนึง แล้วเดี๋ยวจะตามมาลงต่อให้จบน๊าาาาา
มาช่วยเป็นกำลังให้พี่สิงกับน้องคริสในความสัมพันธ์ครั้งนี้กันด้วยนะคะ.
ความคิดเห็น